กล้วย : เรื่องกล้วยๆ เรื่องป่วยเรื่องเล็ก |
ฝ่ายวิชาการ สถาบันการแพทย์แผนไทย
|
![]()
กล้วยสุก มีคาร์โบไฮเดรตถึง 22% เพราะฉะนั้นการรับประทานกล้วยแทนอาหารเย็น เพื่อลดความอ้วน ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะคาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุของความอ้วนอย่างหนึ่ง นอกจากจะเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตแล้ว กล้วยยังอุดมไปด้วยเกลือแร่ คือเป็นแหล่งวิตามินเอ บี และซี
กล้วยเป็นผลไม้ที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน แต่กลับไม่ค่อยมีใครศึกษาถึงประโยชน์ทางยาของกล้วยมากนัก อย่างไรก็ตาม พบว่าชาวอินเดียใช้แป้งจากกล้วยบางชนิดทำ "จาปาตี" ซึ่งเป็นโรตีจืด ทั้งนี้มีสรรพคุณคือ ลดอาการท้องอืด หรือธาตุพิการ และยังใช้แป้งจากกล้วยผสมนมสด ใช้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายในผู้ป่วยกระเพาะอักเสบได้เป็นอย่างดี
ในปี พ.ศ. 2473 นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าเนื้อกล้วยสามารถทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เหลือกรดไม่มากพอที่จะทำให้เกิดอาการปวด แต่นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ กลับพบสารสำคัญในกล้วยที่สามารถยับยั้งการหลั่งของกรดในกระเพาะได้ จึงช่วยลดการกำเริบของแผลในกระเพาะ และพบอีกว่า หลังจากให้หนูทดลองกินกล้วยไประยะหนึ่ง ผนังกระเพาะของหนูหนาขึ้นถึง 20% และให้กินยาแอสไพรินซึ่งมีฤทธิ์กัดกระเพาะ กระเพาะของหนูทดลองก็ไม่สามารถกัดกระเพาะได้
![]()
ผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญ กลับมีประโยชน์มากมาย หากรู้อย่างนี้แล้วก็หันกลับมารับประทานผลไม้ไทย ราคาถูก มากด้วยคุณค่า ดีกว่าผลไม้นำเข้า ราคาแพง กันเถิด
|
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
กล้วย : เรื่องกล้วยๆ เรื่องป่วยเรื่องเล็ก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น